สัญญาเพิ่มเติมแบบ PPR และ UDR​

คำนิยาม


สัญญาเพิ่มเติม PPR คืออะไร​

PPR (Premium Paying Rider) หมายถึงสัญญาเพิ่มเติมทั่วไปที่แนบอยู่กับกรมธรรม์ประกันชีวิต ซึ่งมีการชำระเบี้ยประกันภัยแยกต่างหากจากเบี้ยประกันภัยของสัญญาหลัก และมีระยะเวลาเอาประกันภัย 1 ปี ซึ่งอาจต่ออายุได้​

มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มความคุ้มครองเพิ่มเติมให้กับสัญญาหลัก โดยมุ่งเน้นไปที่ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล โรคร้ายแรง ค่าชดเชยรายได้ และอุบัติเหตุ เป็นต้น​

สัญญาเพิ่มเติม UDR คืออะไร​

UDR (Unit Deducting Rider) หรือ สัญญาเพิ่มเติมแบบชำระค่าการประกันภัยโดยการขายคืนหน่วยลงทุน เป็นสัญญาเพิ่มเติมที่ถูกออกแบบมาเพื่อแนบกับแบบประกันชีวิตควบการลงทุน AIA Issara Plus (Unit Linked) และ AIA Issara Prestige Plus (Unit Linked) ไม่สามารถซื้อแยก หรือแนบกับประกันชีวิตทั่วไปได้ มีวัตถุประสงค์หลักคือการให้ความคุ้มครองด้านสุขภาพ เช่น ค่ารักษาพยาบาล โรคร้ายแรง และค่าชดเชยรายได้ เป็นต้น​

ความแตกต่างของสัญญาเพิ่มเติมแบบ PPR และ UDR ​

หมายเหตุ:
• ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครอง รวมทั้งข้อยกเว้นไม่คุ้มครองของผลิตภัณฑ์ประกันภัย และเงื่อนไขที่เอไอเอประกาศ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
• ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์คำเตือน:
• การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะผลิตภัณฑ์ เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองทุนรวมภายใต้กรมธรรม์เอไอเอ ยูนิต ลิงค์ (aia.co.th)
• ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
• การทำประกันชีวิตแบบยูนิต ลิงค์ ไม่ใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยง ผู้ขอเอาประกันภัยควรทำความเข้าใจลักษณะผลิตภัณฑ์ เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง รวมถึงศึกษา อ่าน และทำความเข้าใจในเอกสารประกอบการเสนอขายและหนังสือชี้ชวนของกองทุน ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยและลงทุน

จุดเด่นของสัญญาเพิ่มเติม UDR เมื่อซื้อแนบกับเอไอเอ อิสระ พลัส (ยูนิต ลิงค์)​

สัญญาเพิ่มเติม UDR (Unit Deducting Rider) ​ ​

สัญญาเพิ่มเติมแบบชำระค่าการประกันภัยโดยการขายคืนมูลค่าหน่วยลงทุน เป็นสัญญาเพิ่มเติมที่แนบได้กับแบบประกัน AIA Issara Plus (Unit Linked) และแบบประกัน AIA Issara Prestige Plus (Unit Linked) เท่านั้น โดยคำนวณรวมในเบี้ยฯ รวม RPP ซึ่งหลังหักค่าธรรมเนียมกรมธรรม์แล้ว เบี้ยฯ ส่วนที่เหลือจะนำไปลงทุนในกองทุนรวม โดยลูกค้าจะได้รับความคุ้มครองต่อเนื่อง ตราบเท่าที่มูลค่าหน่วยลงทุนมีเพียงพอให้หักค่าใช้จ่ายต่างๆ ​

Target Premium หรือเบี้ยประกันภัยส่วนที่เพิ่มขึ้นสำหรับสัญญาเพิ่มเติม UDR ​

  • เป็นส่วนหนึ่งของเบี้ยประกันภัยหลักเพื่อความคุ้มครอง (เบี้ยฯ รวม RPP) ที่กำหนดให้ผู้เอาประกันภัยต้องจ่ายเพิ่มทุกปีเมื่อซื้อสัญญาเพิ่มเติมแบบชำระค่าการประกันภัยโดยการขายคืนหน่วยลงทุน (UDR)​

  • วัตถุประสงค์ในการกำหนด Target Premium เพื่อทำให้มูลค่าบัญชีกรมธรรม์เพียงพอสำหรับการชำระค่าธรรมเนียมกรมธรรม์ และค่าการประกันภัยสำหรับสัญญาเพิ่มเติม (COR) ​ โดยค่าธรรมเนียมกรมธรรม์และ ค่าการประกันภัยดังกล่าวจะถูกชำระโดยการขายคืนหน่วยลงทุน เงินส่วนที่เหลือจะถูกนำไปลงทุนผ่านกองทุนรวมภายใต้กรมธรรม์ ​

  • หากค่าการประกันภัยสำหรับสัญญาเพิ่มเติม (COR)มีการปรับเพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้มูลค่าบัญชีกรมธรรม์ลดลงเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในกรณีดังกล่าว บริษัทอาจแนะนำให้มีการชำระเบี้ยประกันภัยเพิ่มเติมพิเศษตามความเหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้กรมธรรม์สิ้นผลบังคับเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากมูลค่าบัญชีกรมธรรม์ไม่เพียงพอที่จะชำระค่าการประกันภัยที่เพิ่มขึ้น​

แบบประกัน AIA Issara Plus (Unit Linked) ที่แนบสัญญาเพิ่มเติมแบบ UDR ประกอบด้วย 2 ส่วนหลักที่ทำงานร่วมกัน​

  1. สัญญาหลัก: AIA Issara Plus (Unit Linked) – ให้ความคุ้มครองชีวิต โดยมีค่าการประกันภัย (COI) ที่ถูกหักจากมูลค่าหน่วยลงทุนของผู้เอาประกันภัยโดยอัตโนมัติเป็นรายเดือนสำหรับความคุ้มครองชีวิต และจะจ่ายผลประโยชน์เมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต กรณีทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง หรือกรณีมีชีวิตอยู่จนครบกำหนดสัญญาประกันภัย​

  2. สัญญาเพิ่มเติม: สัญญาเพิ่มเติมแบบ UDR (Unit Deducting Rider) เป็นสัญญาเพิ่มเติมที่ให้ความคุ้มครองด้านสุขภาพ เช่น ค่ารักษาพยาบาล โรคร้ายแรง และค่าชดเชยรายได้ ​

โดยสัญญาเพิ่มเติมแบบ UDR จะแนบกับแบบประกันชีวิตควบการลงทุน AIA Issara Plus (Unit Linked) และ AIA Issara Prestige Plus (Unit Linked) เท่านั้นไม่สามารถซื้อแยก หรือแนบกับกรมธรรม์ประกันชีวิตทั่วไปได้ ​

เบี้ยประกันภัยที่ผู้เอาประกันภัยชำระสำหรับสัญญาหลัก AIA Issara Plus (Unit Linked) และ สัญญาเพิ่มเติมแบบ UDR (Unit Deducting Rider) จะถูกนำไปหักค่าใช้จ่าย และค่าธรรมเนียมกรมธรรม์ ดังนี้​

  • ค่าการประกันภัย (COI) สำหรับความคุ้มครองชีวิต​

  • ค่าการประกันภัย (COI TPD) สำหรับความคุ้มครองทุพพลภาพ​

  • ค่าธรรมเนียมการบริหารกรมธรรม์ (Admin Fee) 0.7% ต่อปี ของมูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุน​

  • ค่าการประกันภัยสำหรับ UDR (COR) สำหรับความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติม​

เบี้ยประกันภัยส่วนที่เหลือหลังจากหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่างๆ ของกรมธรรม์แล้วจะถูกนำไปลงทุนในกองทุนรวมที่ผู้เอาประกันภัยเลือกตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น​

เรื่องที่ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับแบบประกัน Unit Linked และสัญญาเพิ่มเติมแบบ UDR​

รู้ไว้ก่อน จะได้เตรียมพร้อมเพื่อป้องกันความเสี่ยงได้ทัน​

สรุปองค์ประกอบที่สำคัญ:​

กรมธรรม์ยูนิต ลิงค์ที่แนบสัญญาเพิ่มเติม UDR เหมาะสำหรับผู้ที่มีความเข้าใจเรื่องการลงทุนและยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ และต้องการความคุ้มครองต่อเนื่อง ตราบเท่าที่มูลค่าหน่วยลงทุนมีเพียงพอสำหรับหักค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งได้แก่ COI, COR และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ​

และในกรณีที่มูลค่าบัญชีกรมธรรม์ลดลงเร็วกว่าที่คาดการณ์ไม่ว่าจะด้วยผลตอบแทนจากการลงทุน หรือการปรับเพิ่มของ COI หรือ COR ในอนาคต (ที่ไม่ใช่การรปรับตามอายุที่เพิ่มขึ้นตามปกติ) ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าบัญชีกรมธรรม์ลดลงเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ หรือไม่เพียงพอทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครองต่อเนื่อง ผู้เอาประกันภัยสามารถชำระเบี้ยประกันภัยเพิ่มเติมพิเศษ (Top Up Premium) เพื่อป้องกันไม่ให้กรมธรรม์สิ้นผลบังคับและได้รับความคุ้มครองต่อเนื่อง​

หมายเหตุ:
• ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครอง รวมทั้งข้อยกเว้นไม่คุ้มครองของผลิตภัณฑ์ประกันภัย และเงื่อนไขที่เอไอเอประกาศ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
• ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์คำเตือน:
• การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะผลิตภัณฑ์ เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองทุนรวมภายใต้กรมธรรม์เอไอเอ ยูนิต ลิงค์ (aia.co.th)
• ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
• การทำประกันชีวิตแบบยูนิต ลิงค์ ไม่ใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยง ผู้ขอเอาประกันภัยควรทำความเข้าใจลักษณะผลิตภัณฑ์ เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง รวมถึงศึกษา อ่าน และทำความเข้าใจในเอกสารประกอบการเสนอขายและหนังสือชี้ชวนของกองทุน ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยและลงทุน

  • การพิจารณารับประกันภัยให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด​

  • ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเพื่อประกอบการนำเสนอขายเท่านั้น ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครอง รวมทั้งข้อยกเว้นไม่คุ้มครองของผลิตภัณฑ์ประกันภัย และเงื่อนไขที่เอไอเอประกาศก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง​

  • ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์​

  • ผู้ขอเอาประกันภัยมีหน้าที่แถลงข้อความจริงในการขอเอาประกันภัย การปกปิดข้อเท็จจริงหรือแถลงข้อความเป็นเท็จใดๆ อาจเป็นเหตุให้บริษัทผู้รับประกันภัยบอกล้างสัญญาประกันภัยและปฏิเสธไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทนตามสัญญา​

  • ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครอง รวมทั้งข้อยกเว้นไม่คุ้มครองของผลิตภัณฑ์ประกันภัย และเงื่อนไขที่เอไอเอประกาศ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง​

  • การนำส่งเบี้ยประกันภัยเป็นหน้าที่ของผู้ขอเอาประกันภัย การที่นายหน้าประกันชีวิตมาเก็บเบี้ยประกันภัยเป็นการให้บริการเท่านั้น​

  • ผู้ขอเอาประกันภัยควรชำระเบี้ยประกันภัยตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ของแบบประกันภัย หากมีการยกเลิกหรือหยุดชำระเบี้ยประกันภัยก่อนกำหนด อาจทำให้เกิดขาดทุนหรือเสียผลประโยชน์ได้​

  • ผู้ขอเอาประกันภัยควรพิจารณาถึงความสามารถในการชำระเบี้ยประกันภัย เนื่องจากกรมธรรม์นี้เหมาะสำหรับการออมเงินระยะยาว มีค่าธรรมเนียมในการถอนเงินจากกรมธรรม์ ซึ่งอาจมีผลให้มูลค่าเวนคืนกรมธรรม์​ และมูลค่าจากการถอนเงินจากกรมธรรม์ มีมูลค่าน้อยกว่ามูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุน ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษารายละเอียดจากตารางค่าธรรมเนียมในการถอนเงินจากกรมธรรม์​

  • การถอนเงินจากกรมธรรม์บางส่วน หรือการใช้สิทธิถอนเงินจากกรมธรรม์อัตโนมัติ จะทำให้มูลค่าบัญชีกรมธรรม์ลดลง ซึ่งส่งผลให้ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิตลดลง และกรมธรรม์อาจสิ้นผลบังคับเร็วขึ้น​

  • การทำประกันชีวิตแบบยูนิต ลิงค์ ไม่ใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยง ผู้ขอเอาประกันภัยควรทำความเข้าใจลักษณะผลิตภัณฑ์ เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง รวมถึงศึกษา อ่าน และทำความเข้าใจในเอกสารประกอบการเสนอขายและหนังสือชี้ชวนของกองทุน ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยและลงทุน ซึ่งผู้ขอเอาประกันภัยอาจได้รับเงินคืนมากกว่าหรือน้อยกว่ามูลค่าเบี้ยประกันภัย ที่ถูกจัดสรรเข้ากองทุนรวม โดยหากผลการดำเนินงานของกองทุนรวมมีกำไร​

  • ผู้ขอเอาประกันภัยจะได้รับผลตอบแทนสูง แต่หากผลการดำเนินงานของกองทุนรวมขาดทุน ผู้ขอเอาประกันภัยจะได้ผลตอบแทนต่ำหรือบางกรณีอาจขาดทุน กล่าวคือ ไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวน​ ทั้งนี้ กรมธรรม์นี้ไม่มีการรับประกันเงินส่วนของเงินลงทุน นอกจากนี้ กรณียกเลิก/เวนคืนกรมธรรม์ ก่อนครบกำหนด ผู้ขอเอาประกันภัยอาจจะได้รับเงินคืนเป็นจำนวนน้อยกว่าเบี้ยประกันภัยที่จ่ายไปแล้วอีกด้วย​

  • ผู้ขอเอาประกันภัยเป็นผู้เลือกลงทุนในกองทุน เพื่อวัตถุประสงค์ในการลงทุนของตนเอง และเป็นผู้รับความเสี่ยงจากการลงทุนเอง ทั้งนี้ ผู้ขอเอาประกันภัยควรทำความเข้าใจในกองทุน โดยสามารถดูระดับความเสี่ยงและรายละเอียดของกองทุนจากหนังสือชี้ชวนของกองทุน​

  • ในระหว่างสัญญากรมธรรม์ กรมธรรม์อาจจะสิ้นผลบังคับในปีใดปีหนึ่งก็ได้หากมูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนเท่ากับหรือน้อยกว่าศูนย์ หรือมูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนมีไม่เพียงพอที่จะหักค่าธรรมเนียมกรมธรรม์​

  • กองทุนรวมเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากบริษัทประกันชีวิตและบริษัทจัดการ ดังนั้น บริษัทประกันชีวิตและบริษัทจัดการจึงไม่มีภาระผูกพันในการชดเชยผลขาดทุนของกองทุนรวมควบรวมกรมธรรม์ และจะไม่สามารถนำทรัพย์สินของกองทุนรวมไปใช้ประโยชน์เพื่อการชำระหนี้ของตนเอง​

  • จำนวนเบี้ยประกันภัยที่ผู้ขอเอาประกันภัยชำระจะถูกหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการประกันภัย ค่าธรรมเนียมการบริหารกรมธรรม์ และค่าการประกันภัยโดยจำนวนเงินที่เหลือจะถูกนำไปลงทุนในกองทุนรวมตามที่​ผู้ขอเอาประกันภัยเลือก​

  • กรณีกองทุนที่ผู้ขอเอาประกันภัยเลือกเป็นกองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมด ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน​ ดังนั้น ผู้ขอเอาประกันภัยอาจขาดทุน หรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าว หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้​

  • กรณีที่บริษัทจัดการใช้เครื่องมือการบริหารและจัดการความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของกองทุนรวมตามที่กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวนของกองทุน อาจส่งผลให้บริษัทและผู้ขอเอาประกันภัย/ผู้เอาประกันภัยไม่สามารถทำรายการชื้อ หรือขาย หรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ตามปกติ หรืออาจถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากการทำรายการซื้อ หรือขาย หรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวจากผู้ขอเอาประกันภัย/ผู้เอาประกันภัยเพื่อให้สอดคล้องกับค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บโดยบริษัทจัดการ​

การปรับเบี้ยประกันภัยของสัญญาเพิ่มเติมแบบ PPR ​

•  สัญญาเพิ่มเติมกลุ่มค่ารักษาพยาบาล​
สัญญาเพิ่มเติมเป็นสัญญาประกันภัยที่มีระยะเวลาเอาประกันภัย 1 ปี ซึ่งอาจต่ออายุได้ ทั้งนี้ ในการต่ออายุบริษัทสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขข้อตกลงความคุ้มครอง เช่น การเพิ่มเงื่อนไขให้ผู้เอาประกันภัยมีค่าใช้จ่ายร่วม (copayment ในปีต่ออายุ)​ ตามอัตราและหลักเกณฑ์ที่ระบุในสัญญาเพิ่มเติม และสงวนสิทธิ์ในการปรับเบี้ยประกันภัยในรอบปีกรมธรรม์ อันเนื่องมาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ ชั้นอาชีพ ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูงขึ้น หรือจากประสบการณ์การจ่ายค่าสินไหมทดแทนโดยพิจารณาแยกตามพอร์ตโฟลิโอ (Portfolio) เป็นต้น โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน​

•  สัญญาเพิ่มเติมกลุ่มโรคร้ายแรงและชดเชยรายได้​
บริษัทสงวนสิทธิ์ในการปรับเบี้ยประกันภัยในรอบปีกรมธรรม์ อันเนื่องมาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ ขั้นอาชีพ ประสบการณ์การจ่ายสินไหมทดแทนของบริษัท เป็นต้น ทั้งนี้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน​
 

การปรับเบี้ยประกันภัยของสัญญาเพิ่มเติมแบบ UDR​

•  สัญญาเพิ่มเติมกลุ่มค่ารักษาพยาบาล บริษัทสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขข้อตกลงความคุ้มครอง เช่น การเพิ่มเงื่อนไขให้ผู้เอาประกันภัยมีค่าใช้จ่ายร่วม (copayment ในปีต่ออายุ)​ ตามอัตราและหลักเกณฑ์ที่ระบุในสัญญาเพิ่มเติม และสงวนสิทธิ์ในการปรับค่าการประกันภัยในรอบปีกรมธรรม์ อันเนื่องมาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ ชั้นอาชีพ ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูงขึ้น หรือจากประสบการณ์การจ่ายค่าสินไหมทดแทนโดยพิจารณาแยกตามพอร์ตโฟลิโอ (Portfolio) เป็นต้น โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน

•  สัญญาเพิ่มเติมกลุ่มโรคร้ายแรงและชดเชยรายได้ บริษัทสงวนสิทธิ์ในการปรับค่าการประกันภัยในรอบปีกรมธรรม์ อันเนื่องมาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ ขั้นอาชีพ ประสบการณ์การจ่ายสินไหมทดแทนของบริษัท เป็นต้น ทั้งนี้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน ​

•  ทั้งนี้ หากค่าการประกันภัยมีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อาจส่งผลให้มูลค่าบัญชีกรมธรรม์ลดลงเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในกรณีดังกล่าว บริษัทอาจแนะนำให้มีการชำระเบี้ยประกันภัยเพิ่มเติมพิเศษตามความเหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้กรมธรรม์สิ้นผลบังคับเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากมูลค่าบัญชีกรมธรรม์ไม่เพียงพอที่จะชำระค่าการประกันภัยที่เพิ่มขึ้น​

1) สัญญาเพิ่มเติมแบบ UDR สามารถซื้อในปีต่ออายุได้หรือไม่​
ตอบ: ไม่ได้ สัญญาเพิ่มเติม UDR จะต้องซื้อแนบกับแบบประกันชีวิตควบการลงทุน AIA Issara Plus (Unit Linked) หรือ AIA Issara Prestige Plus (Unit Linked) และสามารถซื้อได้เฉพาะกรมธรรม์ธุรกิจใหม่ (ปีแรก) เท่านั้น​

2) สัญญาเพิ่มเติมแบบ PPR สามารถซื้อเพิ่มในปีต่ออายุได้หรือไม่​
ตอบ: ซื้อเพิ่มในปีต่ออายุได้ โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการรับประกันและการพิจารณารับประกันของแต่ละแบบ ​

3) ในอนาคต อัตราเบี้ยประกันภัยของสัญญาเพิ่มเติมแบบ PPR  สามารถปรับเปลี่ยนจากอัตราเบี้ยประกันภัยที่แสดงในตารางเบี้ยฯ ปัจจุบันได้หรือไม่​
ตอบ: โดยปกติ สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพและโรคร้ายแรงจะปรับเพิ่มตามอายุของผู้เอาประกันภัย อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถปรับเบี้ยประกันภัยในรอบปีกรมธรรม์ได้ อันเนื่องมาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ ชั้นอาชีพ ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูงขึ้น หรือจากประสบการณ์การจ่ายค่าสินไหมทดแทนโดยพิจารณาแยกตามพอร์ตโฟลิโอ (Portfolio) เป็นต้น โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน​

4) สัญญาเพิ่มเติมแบบ UDR สามารถแนบกับแบบประกันภัยหลักใดได้บ้าง​
ตอบ: สามารถแนบได้กับ AIA Issara Plus (Unit Linked) และ AIA Issara Prestige Plus (Unit Linked) เท่านั้น​

5) สัญญาเพิ่มเติมแบบ UDR ที่มีระยะเวลาคุ้มครองให้เลือกแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร​
ตอบ: สัญญาเพิ่มเติม UDR บางแบบจะสามารถเลือกระยะเวลาคุ้มครองได้ เช่นถึงอายุ 80 ปี 85 ปี หรือ 90 ปี ซึ่ง Target Premium ของแต่ละระยะเวลาคุ้มครองจะแตกต่างกัน และผู้เอาประกันภัยจะได้รับความคุ้มครองต่อเนื่อง ตราบเท่าที่มูลค่าหน่วยลงทุนมีเพียงพอสำหรับหักค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งได้แก่ COI, COR และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ​

6) ผู้เอาประกันภัยสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเมื่อซื้อสัญญาเพิ่มเติม UDR ได้หรือไม่​
ตอบ: เมื่อซื้อสัญญาเพิ่มเติมแบบ UDR แนบกับ แบบประกันชีวิตควบการลงทุน AIA Issara Plus (Unit Linked) หรือ AIA Issara Prestige Plus (Unit Linked) สามารถนำค่าใช้จ่ายในการดำเนินการประกันภัย ค่าธรรมเนียมการบริหารกรมธรรม์ ค่าการประกันภัยสำหรับความคุ้มครองชีวิต ไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบับที่ 172) และค่าการประกันภัยสำหรับสัญญาเพิ่มเติมแบบชำระค่าการประกันภัยโดยการขายคืนหน่วยลงทุน (COR) เฉพาะส่วนที่เข้าเงื่อนไขสามารถหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด​