วิธีการรักษากรดไหลย้อนมีค่อนข้างหลากหลายและไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ จึงจำเป็นต้องมีการดูแลตนเองและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง มาดูกันว่ามีวิธีใดบ้างที่จะช่วยรักษาและดูแลปัญหากรดไหลย้อนได้บ้าง
โรคกรดไหลย้อน (GERD) เกิดจากการระคายเคืองของหลอดอาหาร ที่เกิดจาการย้อนกลับของสารคัดหลั่งในกระเพาะอาหาร เช่น กรดจากกระเพาะอาหาร ทำให้มีอาหารแสบร้อนกลางอก ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอเปรี้ยว ซึ่งสาเหตุสามารถเกิดได้จากหลากหลายปัจจัย
กรดไหลย้อนเป็นแล้ว ดูแลตัวเองอย่างไร
ลดน้ำหนักแก้ปัญหากรดไหลย้อน
ควรลดน้ำหนัก หากมีน้ำหนักที่เกินมาตรฐาน เพราะเมื่อน้ำหนักเกินมาตรฐานจะทำให้คุณมีความเสี่ยงการเป็นกรดไหลย้อนได้มากกว่า เพราะเมื่อน้ำหนักตัวที่มาก ส่งผลต่อความดันในช่องท้องที่เพิ่มมากขึ้น
3 ชั่วโมงก่อนนอน ควรงดทานอาหาร
ควรลดน้ำหนัก หากมีน้ำหนักที่เกินมาตรฐาน เพราะเมื่อน้ำหนักเกินมาตรฐานจะทำให้คุณมีความเสี่ยงการเป็นกรดไหลย้อนได้มากกว่า เพราะเมื่อน้ำหนักตัวที่มาก ส่งผลต่อความดันในช่องท้องที่เพิ่มมากขึ้น
มื้ออาหาร ควรห่างจากเวลานอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง และนอนในท่าตะแคงซ้ายจะช่วยลดการระคายเคืองของกรดจากกระเพาะอาหารได้ดีขึ้น
หวาน เปรี้ยว มัน ทอด อาหารที่ต้องเลี่ยง ไม่เสี่ยงกรดไหลย้อน
- หลีกเลี่ยงอาหารหวาน มัน และอาหารทอด เนื่องจากเป็นอาหารที่ย่อยได้ยาก
- หลีกเลี่ยงอาหารหรือผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
- หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้เกิดอาการ พวกคาเฟอีน เช่น กาแฟ ช็อคโกแลต เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือน้ำอัดลม เป็นต้น
- ที่สำคัญคือ ควรงดหรือลดการสูบบุหรี่
เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ความเสี่ยงหรืออาการของโรคกรดไหลย้อนที่คุณกำลังเป็นอยู่