ทำไมเศรษฐกิจไม่ดียิ่งต้องทำประกัน
ในภาวะที่เศรษฐกิจไม่ดี หลายคนอาจลังเลที่จะทำประกันด้วยความตึงเครียดเรื่องค่าใช้จ่าย และอาจมองว่าการทำประกันเป็นรายจ่ายที่ไม่จำเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้วในเวลาแบบนี้อาจเป็นเวลาที่เราจำเป็นต้องมีประกันมากที่สุด เพื่อสร้างเบาะรองรับทางการเงินให้พร้อมเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนสำหรับตัวเราเองและครอบครัว
ยิ่งเศรษฐกิจไม่ดี ยิ่งต้องวางแผนบริหารความเสี่ยง
การทำประกันเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราสามารถบริหารความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น ในรายของผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือค้าขายอาจได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจเนื่องจากรายได้ที่ลดลง ในรายของพนักงานประจำอาจต้องเจอกับผลกระทบของอัตราการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้หางานที่รายได้สูงได้ยากขึ้น ขณะที่งานเดิมก็อาจมีความเสี่ยงที่จะถูกเลิกจ้างได้ ดังนั้นหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วย อุบัติเหตุ การตรวจเจอโรคร้ายแรง หรือการเสียชีวิต ก็จะยิ่งส่งผลกระทบมากกว่าเดิม เพราะลำพังภาระค่าใช้จ่ายเดิมที่มีอยู่ก็หนักอยู่แล้ว ในสถานการณ์เช่นนี้การทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพจึงมีความเป็นที่จำเป็นมากกว่าที่เคยเพื่อเป็นทุนสำรองยามฉุกเฉิน ทั้งนี้การทำประกันในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีควรพิจารณาให้เหมาะสมกับรายได้ โดยวางแผนส่งเบี้ยประกันภัยที่ไม่เป็นเกินกำลังของตัวเองจนเกินไป และเลือกประเภทความคุ้มครองให้ตอบโจทย์เหมาะสมกับความต้องการ
ทำประกันชีวิตเพื่อปกป้องครอบครัว ทำประกันสุขภาพเพื่อรับมือในวันที่ไม่แน่นอน
การทำประกันชีวิตจะช่วยให้เราสามารถปกป้องครอบครัวและคนที่เรารักได้ โดยเฉพาะในรายที่เป็นหัวหน้าครอบครัวยิ่งควรมีประกันชีวิตไว้ให้อุ่นใจ เพราะประกันชีวิตจะช่วยให้ครอบครัวมีเงินสำรองฉุกเฉินในวันที่ขาดรายได้จากเสาหลัก เพื่อพยุงให้ทุกชีวิตสามารถตั้งหลักและเดินหน้าต่อได้แม้ในภาวะที่เศรษฐกิจไม่เป็นใจ ซึ่งเราสามารถเลือกทำประกันชีวิตได้หลายประเภท ทั้งประกันชีวิตแบบคุ้มครองตลอดชีพ ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit Linked) รวมถึง ประกันชีวิตเพื่อการสะสมทรัพย์ หรือ ประกันชีวิตแบบบำนาญ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเก็บออมพร้อมสร้างหลักประกันให้ตนเองและครอบครัวไปพร้อม ๆ กัน
ขณะที่การทำประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายจะช่วยป้องกันความเสี่ยงทางการเงินจากค่ารักษาพยาบาลที่มีค่าใช้จ่ายสูง โดยประกันสุขภาพจะช่วยให้เรามีทางเลือกในการรักษา ให้สามารถเข้าถึงการรักษาที่ดีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในวันที่เราป่วยหนักหรือเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ประกันโรคร้ายแรงก็จำเป็นเช่นกัน เพราะโรคร้ายแรงมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ทั้งค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายในช่วงที่พักฟื้นหรือช่วงที่ต้องลาออกจากงานจนขาดรายได้ ประกันโรคร้ายแรงจะช่วยให้เรามีเงินก้อนไว้สำรองค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เหล่านี้ หากคุณมีงบที่จำกัดในการซื้อประกัน แนะนำว่าอย่างน้อย ๆ ก็ควรมีประกันโรคร้ายแรงติดไว้สักฉบับ เพื่อป้องกันให้เราไม่ต้องเป็นหนี้สินเพิ่มจากการหาเงินมารักษาตัว อีกทั้งเบี้ยฯ เริ่มต้นของประกันโรคร้ายแรงก็ไม่สูงมากนัก ทั้งยังมีหลายประเภทให้เลือกตามต้องการ เช่น แบบเจอ-จ่าย-จบ ที่ครอบคลุมทั้งการคุ้มครองชีวิตและโรคร้ายแรง แบบที่ไม่ต้องจ่ายเบี้ยฯ ทิ้ง หากไม่ป่วยก็สามารถเวนคืนกรมธรรม์ภายหลังได้ หรือแบบเจอ จ่าย หลายจบ ครบถึงการดูแล ที่เน้นความคุ้มค่าจากการเคลมได้หลายครั้ง
ดังนั้นการทำประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และประกันโรคร้ายแรง จึงเป็นการเตรียมความพร้อมในการเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนและช่วยป้องกันความเสี่ยงทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นได้ ยิ่งในภาวะที่เศรษฐกิจไม่ดีการมีประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และประกันโรคร้ายแรง จะช่วยให้อนาคตของเราและครอบครัวมีความมั่นคงและปลอดภัยยิ่งขึ้น
หมายเหตุ
- ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครอง รวมทั้งข้อยกเว้นไม่คุ้มครอง ของผลิตภัณฑ์ประกันภัย และเงื่อนไขที่เอไอเอประกาศ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
- ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์