9 พฤศจิกายน 2561
ฮ่องกง, 9 พฤศจิกายน 2561 - กลุ่มบริษัทเอไอเอ จำกัด (“บริษัท”, รหัสตลาดหลักทรัพย์: 1299) ประกาศผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 โดยมีมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 ซึ่งคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่
จุดเด่นผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 โดยคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่
• มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เป็น 979 ล้านเหรียญสหรัฐ
• เบี้ยประกันภัยใหม่รับปีแรก (ANP) เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เป็น 1,582 ล้านเหรียญสหรัฐ
• อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) เพิ่มขึ้น 2.6 จุด คิดเป็นร้อยละ 61.1
• เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 เป็น 7,610 ล้านเหรียญสหรัฐ
สรุปสาระสำคัญทางการเงิน
หน่วย : ล้านเหรียญสหรัฐ เว้นแต่ระบุเป็นอย่างอื่น |
3 เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน |
9 เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน |
||||||
2561 |
2560 |
เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (อัตราแลกเปลี่ยนคงที่) |
เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (อัตราแลกเปลี่ยนตามจริง) |
2561 |
2560 |
เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (อัตราแลกเปลี่ยนคงที่) |
เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (อัตราแลกเปลี่ยนตามจริง) |
|
มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) |
979 |
846 |
17% |
16% |
2,933 |
2,451 |
17% |
20% |
อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) |
61.1% |
58.4% |
2.6 pps |
2.7 pps |
60.0% |
55.8% |
3.8 pps |
4.2 pps |
เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) |
1,582 |
1,422 |
12% |
11% |
4,834 |
4,328 |
10% |
12% |
เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) |
7,610 |
6,611 |
16% |
15% |
22,039 |
18,785 |
15% |
17% |
มร. อึง เค็ง ฮุย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า “เอไอเอมีผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 ที่แข็งแกร่งมาก โดยมีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เป็น 979 ล้านเหรียญสหรัฐ ผลประกอบการในวันนี้ ตลอดจนการเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ผ่านมาของบริษัท เป็นผลโดยตรงจากการที่เอไอเอ ดำเนินธุรกิจโดยยึดมั่นในความเป็นเลิศ บวกกับกลยุทธ์ในการสร้างความเติบโตในการดำเนินธุรกิจของเอไอเอที่มีคุณภาพ
“ความต้องการและความคาดหวังของผู้บริโภคชาวเอเชียมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะความต้องการในเรื่องของสุขภาพและการมีชีวิตที่ดี รวมถึงความมั่นคงทางการเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ฐานะการเงินที่ดีขึ้นของผู้บริโภค ยังส่งผลให้มีความต้องการในผลิตภัณฑ์ด้านความคุ้มครองและการออมเงินระยะยาวที่เพิ่มมากขึ้นในตลาดอีกด้วย
“ทั้งนี้ ช่องทางจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง บวกกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ และการใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นของเอไอเอ ทำให้เราได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด โดยสามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วของลูกค้าได้อย่างยอดเยี่ยม ในขณะเดียวกัน คำมั่นสัญญาของเราที่มุ่งช่วยให้ผู้คนหลายล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น เป็นรากฐานอันแข็งแกร่งที่จะทำให้เราสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในระยะยาวกับลูกค้า รวมทั้งสร้างความแตกต่างในตลาดให้กับเอไอเอ ผมมั่นใจว่าทีมงานของเรายังคงมุ่งให้ความสำคัญกับการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจอย่างมีคุณภาพ ตลอดจนมอบผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นของเราในระยะยาว”
สรุปผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3
เอไอเอ ฮ่องกง มีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ที่แข็งแกร่ง เป็นตัวเลข 2 หลัก ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2561 ซึ่งเป็นผลมาจากการเจริญเติบโตในช่องทางตัวแทนและพันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงการเติบโตของกลุ่มลูกค้าในเขตการปกครองและกลุ่มลูกค้าจากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่
การดำเนินงานธุรกิจของเอไอเอในประเทศจีนมีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ที่แข็งแกร่ง เป็นตัวเลข 2 หลัก ในไตรมาสที่ 3 ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มจำนวนของตัวแทนที่มีผลงานอย่างต่อเนื่อง ความมุ่งมั่นของเราที่จะใช้ กลยุทธ์ Premier Agency ในการพัฒนาศักยภาพตัวแทน และการให้คำปรึกษาที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า รวมถึงการให้บริการที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า ส่งผลให้เอไอเอมีควาแตกต่างจากแบรนด์อื่นในประเทศจีน
ธุรกิจของเราในประเทศไทย มีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เป็นตัวเลข 2 หลัก ในไตรมาสที่ 3 ซึ่งเป็นผลมาจากผลผลิตของตัวแทนที่เพิ่มมากขึ้น จากการปฎิรูปโครงสร้างตัวแทนที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) ในประเทศมาเลเซีย ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
แม้ว่าเราจะเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ในไตรมาสที่ 3 นี้ เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปี 2561
ในประเทศสิงคโปร์ ถึงแม้ว่าจะมีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยใหม่รับปีแรก (ANP) ที่แข็งแกร่ง แต่มีอัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายผลิตภัณฑ์ยูนิต ลิงค์ (Unit Linked) ประเภทจ่ายเบี้ยครั้งเดียวที่มีจำนวนมาก ในขณะที่จำนวนตัวแทนที่มีผลงานอย่างต่อเนื่องของเราเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก และการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับซิตี้แบงก์ทำให้ธุรกิจของเรามีอัตราการเติบโตในไตรมาสที่ 3 ที่แข็งแกร่ง
ตลาดอื่นๆ ยังคงมีอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ที่แข็งแกร่ง เป็นตัวเลข 2 หลัก โดยประเทศออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ฟิลิปินส์ และไต้หวัน มีส่วนสำคัญต่อการเติบโตนี้
เบี้ยประกันภัยใหม่รับปีแรก (ANP) เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปี 2560 เป็น 1,582 ล้านเหรียญสหรัฐ อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 61.1 เมื่อเปรียบเทียบกับร้อยละ 58.4 ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2560 ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ช่องทางการขาย และการเปลี่ยนแปลงในด้านอื่น ๆ ที่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น อัตรากำไรของมูลค่าปัจจุบันของเบี้ยประกันภัยธุรกิจใหม่ (PVNBP) เติบโตคงที่อยู่ที่ร้อยละ 10 ในขณะเดียวกันสมมติฐานเชิงเศรษฐกิจระยะยาวยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากที่เคยแสดงไว้ในรายงานประจำปี 2560 รวมทั้งวิธีการที่เราใช้ในการรายงานผลการดำเนินงานธุรกิจใหม่ประจำไตรมาสยังคงเหมือนเดิม เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 เป็น 7,610 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปี 2560 ทั้งนี้เพราะเรายังคงสร้างธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มในพอร์ตโฟลิโอขนาดใหญ่ในปัจจุบันของเรา
มุมมองด้านเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจมหภาคในภูมิภาคเอเชียยังคงมีแรงต้านต่อความผันผวนทางการเงินในตลาด ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและทางธุรกิจที่ลดน้อยลง ในขณะที่ แรงผลักดันที่แข็งแกร่งในการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาค และแนวโน้มหลักทางประชากรศาสตร์ ส่งผลในเชิงบวกต่อการดำเนินธุรกิจในระยะยาวของเอไอเอในภูมิภาคเอเชีย แม้ว่าเรายังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาคและภูมิศาสตร์การเมืองในระดับโลก แต่เรายังคงให้ความสำคัญกับการดำเนินกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ และเรามั่นใจว่าจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นของเราได้อย่างยั่งยืน
ความผันผวนด้านอัตราแลกเปลี่ยน
เอไอเอได้รับเบี้ยประกันภัยส่วนใหญ่เป็นเงินสกุลท้องถิ่น และเราเทียบอัตราสินทรัพย์กับหนี้สินอย่างรอบคอบ เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ทั้งนี้ ในรายงานงบการเงินรวมของกลุ่มบริษัทเอไอเอ ที่มีการแปลงเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เกิดผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้น เราจึงมีการเปรียบเทียบอัตราการเติบโตจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ เว้นแต่ระบุเป็นอย่างอื่น เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนของผลการดำเนินธุรกิจในช่วงเวลาเดียวกันของแต่ละปี
หมายเหตุ
1. ไตรมาสที่ 3 ของปี 2561 ของเอไอเอ สิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2561 และเปรียบเทียบได้กับระยะเวลา 3 เดือน ของปี 2560 ในช่วงเดียวกัน และสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2560
2. ตัวเลขทั้งหมดแสดงในสกุลเงินที่รายงานจริง (ดอลลาร์สหรัฐ) โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนตามจริงในรอบปี (AER) เว้นแต่ระบุไว้เป็นอย่างอื่น การเปลี่ยนแปลงแสดงโดยเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและคำนวณโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (CER) เว้นแต่ระบุไว้เป็นอย่างอื่น การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนคงที่คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่เฉลี่ยสำหรับปี 2561 และ 2560
3. สมมติฐานเชิงเศรษฐกิจระยะยาวเหมือนกับสมมติฐานที่แสดงไว้ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 ปรากฏในหมวด 5.2 ของภาคผนวกว่าด้วยข้อมูลเพิ่มเติมของมูลค่าบริษัท ในรายงานประจำปีของปี 2560 ซึ่งได้รับการประกาศเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2561 สมมุติฐานอื่นที่ไม่ใช่ในเชิงเศรษฐกิจยึดตามข้อมูล ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 ที่มีการปรัปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับข้อมูลล่าสุด
4. มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) คิดจากสมมติฐานที่เกี่ยวข้อง ณ เวลาขาย และก่อนหักส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม มูลค่าธุรกิจใหม่ในส่วนของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมในรอบ 3 เดือน สิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2561 เป็นจำนวนเงิน 7 ล้านเหรียญสหรัฐ เปรียบเทียบกับรอบ 3 เดือน สิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2560 เป็นจำนวนเงิน 5 ล้านเหรียญสหรัฐ
5. มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) รวมธุรกิจการจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) และอัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) ไม่รวมธุรกิจการจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
6. เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) คำนวณจากร้อยละ 100 ของเบี้ยประกันภัยรายปีในปีแรก และร้อยละ 10 ของเบี้ยประกันภัยแบบชำระเบี้ยประกันภัยครั้งเดียวก่อนการเอาประกันภัยต่อ และไม่รวมถึงการประกอบธุรกิจการจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
7. เบี้ยประกันภัยรับรวม (TWPI) ประกอบด้วยร้อยละ 100 ของเบี้ยประกันภัยปีต่ออายุ ร้อยละ 100 ของเบี้ยประกันภัยปีแรก และร้อยละ 10 ของเบี้ยประกันภัยแบบชำระเบี้ยประกันภัยครั้งเดียว ก่อนการเอาประกันภัยต่อ
8. ผลการดำเนินงานของเอไอเอในไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2561 นับรวมผลประกอบการของ Sovereign Assurance Company Limited ในประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งเพิ่งควบรวมกิจการกับเอไอเอเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2561
ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้มีข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตเกี่ยวกับธุรกิจของกลุ่มบริษัทเอไอเอ โดยอ้างอิงจากความคิดเห็นของผู้บริหารของบริษัท รวมถึงประมาณการจากข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบันของผู้บริหารของกลุ่มบริษัทเท่านั้น ดังนั้น จึงมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่จะสอดคล้องกับสถานการณ์ในอนาคตหรือไม่ก็ได้ คำเช่น "จะ” "อนาคต” หรือคำในลักษณะเดียวกันนี้ เป็นการคาดการณ์ในอนาคตที่ไม่อาจรับรองความถูกต้องได้ จึงต้องระมัดระวังอย่างมากในข้อความคาดการณ์ในอนาคตที่อาจเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนทั้งที่ทราบและไม่ทราบ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงในอนาคตจึงอาจมีความแตกต่างไปจากข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตดังกล่าว
เอกสารฉบับนี้ใช้เป็นข้อมูลประกอบเท่านั้น และไม่ได้มีเพื่อเชิญชวนหรือเสนอโดยบุคคลใดเพื่อให้ครอบครองซื้อ หรือสมัครเป็นสมาชิกเพื่อหลักทรัพย์แต่ประการใด เอกสารนี้ไม่ได้มีเพื่อ หรือมีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอขายหลักทรัพย์ของบริษัทในประเทศสหรัฐอเมริกา หลักทรัพย์ของกลุ่มเอไอเอไม่ได้ และจะไม่จดทะเบียนภายใต้พระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา 1933 ที่มีการแก้ไข (“พระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา”) และอาจจะไม่เสนอหรือขายในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ไม่ได้จดทะเบียนหรือได้ยกเว้นจดทะเบียนภายใต้พระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา อีกทั้งไม่มีความประสงค์เพื่อเสนอหลักทรัพย์ของบริษัทในประเทศสหรัฐอเมริกาแต่ประการใด