กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คือ กองทุนที่นายจ้างและลูกจ้างร่วมกันจัดตั้งขึ้นด้วยความสมัครใจ เพื่อให้ลูกจ้างมีเงินออมไว้ใช้ยามเกษียณอายุ ลาออกจากงาน ทุพพลภาพ หรือเป็นหลักประกันให้ครอบครัวในกรณีที่ลูกจ้างเสียชีวิต
สิทธิประโยชน์ต่อนายจ้าง
- บริษัทสามารถนำเงินสมทบมาหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษี
- ช่วยลดภาระด้านการบริหารเงินลงทุน การจัดทำบัญชี และรายงานต่างๆ
- สะท้อนความมั่นคง และความเอาใจใส่ของนายจ้างต่อลูกจ้าง
- ช่วยลดปัญหาข้อพิพาทแรงงาน และปัญหาการจัดการด้านสวัสดิการการเข้า-ออกของลูกจ้าง
สิทธิประโยชน์ต่อลูกจ้าง
- ได้รับเงินสมทบจากนายจ้างเพิ่มจากเงินเดือนประจำ
- มีเงินก้อนไว้ใช้เมื่อออกจากงาน ทุพพลภาพ หรือเกษียณอายุ
- ดอกเบี้ยหรือผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการลงทุน ไม่ต้องเสียภาษี (ตราบเท่าที่ยังเป็นสมาชิกอยู่ในกองทุน)
- เงินสะสมที่สมาชิกนำส่งเข้ากองทุน สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกินร้อยละ 15 ของค่าจ้าง หรือไม่เกิน 500,000 บาท (เมื่อนับรวมกับ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ประกันชีวิตแบบบำนาญ (Annuity) และกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF))
- กรณีสิ้นสมาชิกภาพจากกองทุน เนื่องจาก ทุพพลภาพ เสียชีวิต หรือ ลาออกจากงาน โดยมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และเป็นสมาชิกกองทุนมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี เงินก้อนที่ได้รับจากกองทุนจะได้รับการยกเว้นภาษีทั้งจำนวน