24 มีนาคม 2565
เอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นายแพทย์ประมุกข์ ทรงจักรแก้ว รักษาการหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ 1 และผู้อำนวยการฝ่ายประกันสุขภาพ (กลาง) นายแพทย์สมสกุล ศรีพิสุทธิ์แพทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายประกันสุขภาพ (ที่ 2 จากซ้าย) นางสาววิมลพร ไสยวรรณ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายประกันสุขภาพ (ซ้ายสุด) และนางสาวญดา วงศ์ทองคำ ผู้ช่วยผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารสิทธิพิเศษ และกิจกรรมลูกค้า (ที่ 2 จากขวา)
กรุงเทพฯ – 18 มีนาคม 2565 : เอไอเอ ประเทศไทย ผนึกกำลังโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในเครือพันธมิตร กว่า 33 แห่ง ในเขตกรุงเทพมหานคร นำร่องจัดกิจกรรม AIA MEETUP 2022 เพื่อร่วมวางแผนพัฒนาปรับปรุงมาตรฐานการบริการสินไหมประกันสุขภาพ ให้สะดวก และมีความรวดเร็วมากขึ้น ตามความจำเป็นและมาตรฐานทางการแพทย์ เพื่อยกระดับประสบการณ์การบริการสินไหมประกันสุขภาพแก่ลูกค้าเอไอเอ และลูกค้าของโรงพยาบาล โดยงานได้จัดขึ้นทั้งหมด 4 รอบ ซึ่งปฎิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เมื่อวันที่ 10-11 มีนาคม 2565 ณ โรงภาพยนตร์ Honda Ultimate Screen ชั้น 5 พารากอนซินิเพล็กซ์ สยามพารากอน
กิจกรรม AIA MEETUP 2022 จัดขึ้นเพื่อเดินหน้าผนึกความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำในเครือพันธมิตรภายใต้แนวคิด “การเปลี่ยนโรงพยาบาลพันธมิตรจากคู่ค้าเป็นเพื่อนสนิทเพื่อให้ลูกค้าเอไอเอ และลูกค้าของโรงพยาบาลได้รับประสบการณ์การบริการสินไหมประกันสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น ทำให้การเคลมรวดเร็วขึ้น ง่ายยิ่งขึ้น และเป็นหนึ่งเดียวกัน” โดยภายในงานประกอบด้วย 3 หัวข้อบรรยายหลัก
1. Faster Claim process โดย นายแพทย์ สมสกุล ศรีพิสุทธิ์ แพทย์ผู้อำนวยการ ฝ่ายประกันสุขภาพ เอไอเอ ประเทศไทย
2. Simpler Communication โดย นางสาววิมลพร ไสยวรรณ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายประกันสุขภาพ เอไอเอประเทศไทย
3. Better Together โดย นางสาวญดา วงศ์ทองคำ ผู้ช่วยผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารสิทธิพิเศษ และกิจกรรมลูกค้า เอไอเอ ประเทศไทย
นายแพทย์ประมุกข์ ทรงจักรแก้ว รักษาการหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ 1 และ ผู้อำนวยการฝ่ายประกันสุขภาพ เอไอเอประเทศไทย กล่าวว่า “เอไอเอ ประเทศไทย อยู่เคียงข้างและดูแลคนไทยมาเป็นเวลากว่า 84 ปี เราเป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดในอุตสาหกรรมประกันชีวิตของไทย โดยตลอดระยะเวลากว่า 8 ทศวรรษ เอไอเอมีลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจให้เราดูแลมากกว่า 5.1 ล้านคน* หรือคิดเป็นจำนวนกรมธรรม์มากกว่า 8 ล้านฉบับ และลูกค้าองค์กรอีกกว่า 11,000 องค์กร ซึ่งนับเป็นร้อยละ 30 ของทุนประกันทั้งหมดในประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น เราเป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share) เป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยติดต่อกันมานานกว่า 45 ปี เอไอเอ มีโรงพยาบาลคู่สัญญามากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ โดยเป็นโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำกว่า 374 แห่ง และคลินิกกว่า 229 แห่งทั่วประเทศ ในความร่วมมือกับโรงพยาบาลในเครือพันธมิตรในครั้งนี้ เป็นการวางแผนเพื่อมุ่งพัฒนาปรับปรุงมาตรฐานการบริการสินไหมประกันสุขภาพ ให้ลูกค้าเอไอเอและลูกค้าโรงพยาบาลได้รับความสะดวก และความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเป็นไปตามความจำเป็นและมาตรฐานทางการแพทย์ ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การบริการสินไหมประกันสุขภาพสำหรับธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทยอีกด้วย”
*หมายเหตุ: ข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน 2564
นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมา ถือเป็นอีกปีที่ท้าทายสำหรับธุรกิจวินาศภัยและประกันชีวิต แต่ในวิกฤติ เอไอเอ ประเทศไทย ได้มองเห็นโอกาสและสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเป้าหมายที่ชัดเจนของเรา คือต้องการส่งมอบบริการและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ผ่านช่องทางที่หลากหลาย (Omni Channel) ของเอไอเอ ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมไม่ว่าจะจากช่องทางใด ซึ่งความสำเร็จของเอไอเอ ประเทศไทยในปี 2564 ท่ามกลางวิกฤติต่าง ๆ นั้น มาจากความมุ่งมั่นตั้งใจของพนักงานทุกฝ่ายและตัวแทนประกันชีวิตทุกท่านที่ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อช่วยให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญา Healthier, Longer, Better Lives
“สำหรับแนวโน้มของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19 รวมถึงปัจจัยภายนอกอื่น ๆ
ทั้งจากการที่ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย ในขณะที่คนไทยยังไม่พร้อมเกษียณ โดยเอไอเอจะช่วยคนไทยวางแผนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ประกันสังคมที่ถูกปรับลดลง(4) เราจึงเน้นให้คนไทยเข้าถึงประกันสุขภาพได้อย่างทั่วถึงเพื่อช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลส่วนเกิน ให้ผู้เอาประกันภัยอุ่นใจยิ่งขึ้น อีกทั้ง อัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น เอไอเอก็พร้อมนำเสนอโอกาสด้านอาชีพตัวแทน AIA Financial Advisor หรือ AIA Life Advisor ที่จะช่วยสร้างอนาคตที่มั่นคง และสร้างคุณค่าต่อตัวเองและผู้อื่น นอกจากนี้ เอไอเอ ยังสามารถคงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสในทุกมิติ ด้วยการพัฒนาระบบการทำงานและการบริการโดยใช้กลยุทธ์ ABCDE มาเป็นหลักปฏิบัติ เพื่อส่งมอบบริการและผลิตภัณฑ์ที่ช่วยวางแผนทางการเงินเพื่อสร้างความมั่งคั่งและมั่นคง พร้อมมอบความคุ้มครองด้านชีวิตและสุขภาพที่ครอบคลุมทุกช่วงชีวิตของคนไทย”
กลยุทธ์ ABCDE ที่จะผลักดันองค์กรให้ก้าวสู่ความเป็นหนึ่งได้อย่างยั่งยืน ประกอบไปด้วย
· A – Agency Transformation การพัฒนาช่องทางตัวแทนประกันชีวิตให้ทันสมัย ผลักดันสู่การเป็น Digital Agent ในอนาคต ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้พัฒนาการบริการแก่ลูกค้า เช่น นวัตกรรม AIA iSign ที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถทำประกันชีวิตได้แบบไม่ต้องพบหน้ากัน เพื่อลดความเสี่ยงจากการเดินทางและลดการสัมผัส อีกทั้งยังช่วยให้ลูกค้าได้รับความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพแม้ในยามวิกฤติ
· B – Business Partner Acceleration การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของช่องทางพันธมิตร เอไอเอมุ่งมั่นมองหาพันธมิตรใหม่ ๆ เพื่อสร้างอีโคซิสเทม (Ecosystem) ให้กับลูกค้าได้อย่างครบวงจร
· C – Customer Centricity การมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง สำหรับการพัฒนาในทุก ๆ ก้าว เพื่อให้ตอบสนองความต้องการได้อย่างตรงจุด
· D – Digitalisation Journey การวางเส้นทางไปสู่ยุคดิจิทัล กับการเป็น Digital Insurer โดยมุ่งเฟ้นหาและพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อรองรับการหมุนไปอย่างรวดเร็วของโลกดิจิทัล
· E – ESG (Environmental, Social and Governance) ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยผ่านกลยุทธ์ ESG ส่งเสริมสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และธรรมาภิบาล รวมถึงพันธกิจใหม่ของกลุ่มบริษัทเอไอเอกับ AIA One Billion ที่มุ่งมั่นส่งเสริมให้คนทั่วเอเชียกว่าพันล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นภายในปี 2030
อนาคต เอไอเอ สู่การเป็น Digital Insurer
เอไอเอเริ่มและวางรากฐานเพื่อมุ่งสู่การเป็น Digital Insurer มาอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับตัวให้ทันยุคสมัย รองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งเราใช้ TDA Strategy (Technology, Digital and Analytics) ในการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลเชิงลึก (Insight) และความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า รวมถึงการปรับใช้ภายในองค์กรเพื่อตอบสนองความต้องการของพนักงาน และตัวแทนประกันชีวิต ซึ่งได้ถูกพัฒนาขึ้นเป็นระบบการทำงานภายในและบริการดิจิทัลต่าง ๆ เช่น
· AIA iSign นวัตกรรมแรกที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับตัวแทนประกันชีวิตในการบริการลูกค้า ตอบโจทย์การซื้อประกันทุกรูปแบบได้โดยไม่ต้องพบหน้ากัน เพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีตัวแทนประกันชีวิตใช้งาน AIA iSign แล้วกว่า 54.4% ของตัวแทนประกันชีวิตทั้งหมด (5)
· ALive Powered by AIA แอปพลิเคชันผู้ช่วยส่วนตัวสำหรับทุกคนในครอบครัว ที่มอบความรู้และบริการด้านสุขภาพอย่างครบครัน ช่วยดูแลคนไทยทุกคน ไม่เฉพาะสำหรับลูกค้าเอไอเอเท่านั้น โดยปัจจุบันมีผู้ใช้งานแอปพลิเคชันนี้แล้วกว่า 436,000 ราย (6)
· AIA iService แอปพลิเคชันที่ครอบคลุมทุกเรื่องกรมธรรม์ ที่ลูกค้าสามารถจัดการด้วยตัวเองได้แค่ปลายนิ้ว รวมถึงบริการ iClaim ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้เอาประกันภัยสามารถเรียกร้องสินไหมและตรวจสอบสถานะผ่านทางออนไลน์ได้ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชันนี้
· ภายในปีนี้ เราจะสร้างประสบการณ์ในโลกดิจิทัลแบบไร้รอยต่อกับแอปพลิเคชันใหม่จากเอไอเอที่ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ
ล่าสุดได้ร่วมมือกับสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ ผ่านโครงการ AIA x RISE Accelerator ซึ่งเป็นอีกก้าวสำคัญของเอไอเอ ประเทศไทย ที่จะได้เรียนรู้และร่วมกันสร้างนวัตกรรมที่ทันสมัย เพื่อช่วยส่งเสริมให้เอไอเอส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับให้แก่ลูกค้า และยกระดับธุรกิจประกันชีวิตไทยให้พร้อมก้าวสู่โลกดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
“ทั้งนี้ เอไอเอตั้งเป้าที่จะนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าของเรา และเป็นที่หนึ่งในใจของลูกค้าตลอดกาล เพื่อช่วยให้คนไทยมีสุขภาพกาย สุขภาพใจ และสุขภาพทางการเงินที่แข็งแรง มั่งคั่ง และมั่นคง ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ และด้วยกลยุทธ์ที่แน่วแน่นี้ ผมเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถผลักดันให้เอไอเอครองใจลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ และพร้อมเป็นผู้นำ Digital Insurer ของไทย” นายกฤษณ์ กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา:
(1) ข้อมูลจากสมาคมประกันชีวิตไทย ณ เดือนมกราคม 2565
(2) ข้อมูลจากสมาคมประกันชีวิตไทย ประจำปี 2564
(3) เบี้ยประกันภัยรับรายใหม่: เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (FYP) + เบี้ยประกันภัยรับชำระครั้งเดียว (SP)
(4) ข้อมูลจาก มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565
(5) ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2565
(6) ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2565